วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สุบรรณ์ ชีวิต ความหวัง ศรัทธา

..แบกความจริงเดินทางตามสายลม บอกสายลมว่าท้อแท้ ผิดหวังยามอ่อนแอ แต่กลับแพ้ไม่ได้ในความเป็นจริง เริ่มต้นสู้ใหม่ในวันพรุ่ง ตรงที่มีสายรุ้งตรงเส้นขอบฟ้า ดำเนินชีวิตตามกาลเวลา แต่อย่าหมดศรัทธา หากขอบฟ้ายังมีดวงตะวัน..

วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

WannaCry ไวรัสเรียกค่าไถ่

ยังโจมตีต่อเนื่อง! เวลานี้ #WannaCry ไวรัสเรียกค่าไถ่ จากการบล็อกข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมฯ ทั้งไทย และ ทั่วโลก ... สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ETDA)  ระบุไทยโดนไวรัสแล้วกว่า 200 เครื่อง

ใครเจอไวรัสประเภทนี้ .. มีทางเลือก 2 ทาง คือ ทิ้งข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในคอมฯ  หรือ ยอมจ่ายค่าไถ่ข้อมูล 300 เหรียญ หรือ ประมาณ 10,000 บาท

นักวิจัยและพัฒนาระบบป้องกันภัยทางไซเบอร์ "นนทวัตต์ สาระมาน"  Nontawatt Saraman ซึ่งเป็นทีมพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยี SRAN  ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งชื่อไวรัสลงท้าย ว่า CRY ก็ประมาณว่า เมื่อคุณเปิดมาเจอฉันแล้ว...คุณต้องร้องไห้แน่ๆ  (ประมาณว่า #ร้องไห้หนักมาก )

ป้องกันไวรัส..จะมาโผล่ในคอมพ์ฯ คุณ ได้อย่างไร เพื่อเรียกค่าไถ่อย่างไร..

ทางป้องก้น.. คือ อย่าเปิดอีเมลล์ ที่ไม่คุ้นเคย ... /  บรรดา แอดมิน ผู้ดูแลระบบ หรือ เซิร์ฟเวอร์ ต้องหมั่นอัพเดท ไมโครซอร์ฟ เวอร์ชั่นล่าสุด และแบคอัพข้อมูลไปไว้ที่อื่นด้วย เพื่อความปลอดภัย

แต่..ถ้าโดนไว้รัสโผลหน้าจอคอมฯ แล้ว..จะทำอย่างไร..?

ETDA แนะนำว่า

- คนทั่วไป ..ถ้าโดนไวรัส เรียกค่าไถ่ ... อันดับแรก ดูว่าคอมพ์คุณเชื่อมต่อกับออฟฟิศไหม.. ถ้าเชื่อม ให้ถอดสายแลน... และเรียกฝ่ายไอทีมาช่วยดู /  ถ้าอยู่บ้าน ให้โทรหาเพื่อนที่รู้เรื่องไอทีขอคำแนะนำ

ถ้าไม่มีใครที่อยู่ฝ่ายไอที ช่วยได้ ให้โทรหา สพธอ. สายด่วน 1212  หรือ เบอร์ 021231212 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อขอคำปรึกษา

ดูจากจุดสีเขียวๆ คือ จุดที่ไวรัสปรากฏในประเทศนั้น .. ถ้าดูจากสายตาตามเส้นแผนที่ประเทศไทย จุดเขียวๆ โผล่บริเวณภาคกลาง หรือ กทม.

ต่างประเทศ..จีนเจอเพียบ / โซนยุโรป เยอรมัน ฝรั่งเศส อเมริกา ฯลฯ   #Realtime สงครามไซเบอร์

แนะนำให้ แอดมิน..ฝ่ายไอที ออฟฟิศ หน่วยงาน แบ็คอัพข้อมูลสำรองไว้ก่อนโดนไวรัส

(19:20น.)



ขอขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กคุณ ภัทราพร ตั๊นงาม-ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

หมาขี้เรื้อนเวลาไปนอนที่ไหนมันก็คัน มันจะโทษสถานที่นั้นร่ำไป ทั้งๆที่มันคันเพราะตัวมันเอง


เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรื้อนตัวนั้นหรือไม่  เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่น ไป มาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี

คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ท่านเห็นไหมว่าเมื่อตอนเย็นวันนี้ หมาป่าตัวหนึ่งมันเดินอยู่ที่นี่ เห็นไหม? มันจะยืนอยู่มันก็เป็นทุกข์ มันจะวิ่งไปมันก็เป็นทุกข์ มันจะนั่งอยู่ก็เป็นทุกข์ มันจะนอนอยู่ก็เป็นทุกข์ เข้าไปในโพรงไม้มันก็เป็นทุกข์ จะเข้าไปอยู่ในถ้ำก็ไม่สบาย มันก็เป็นทุกข์ เพราะมันเห็นว่าการยืนอยู่นี้ไม่ดี การนั่งไม่ดี การนอนไม่ดี พุ่มไม้นี้ไม่ดี โพรงไม้นี้ไม่ดี ถ้ำนี้ไม่ดี มันก็วิ่งอยู่ตลอดเวลานั้น

ความจริงหมาตัวนั้นมันเป็นขี้เรื้อน มันไม่ใช่เป็นเพราะพุ่มไม้ หรือโพรงไม้หรือถ้ำ หรือการยืน การเดิน การนั่ง การนอน มันไม่สบายเพราะมันเป็นขี้เรื้อน”

พระภิกษุทั้งหลายนี้ก็เหมือนกัน ความไม่สบายนั้นคือ ความเห็นผิดที่มีอยู่ ไปยึดธรรมที่มีพิษไว้มันก็เดือดร้อน ไม่สำรวมอินทรีย์ทั้งหลาย แล้วก็ไปโทษแต่สิ่งอื่น ไม่รู้เรื่องของเจ้าของเอง ไปอยู่วัดหนองป่าพงก็ไม่สบาย ไปอยู่อเมริกาก็ไม่สบาย ไปอยู่กรุงลอนดอนก็ไม่สบาย ไปอยู่วัดป่าบุ่งหวายก็ไม่สบาย ไปอยู่ทุก ๆ สาขาก็ไม่สบาย ที่ไหนก็ไม่สบาย

นี้ก็คือความเห็นผิด นั้นยังมีอยู่ในตัวเรานั่นเอง มีความเห็นผิด ยังไปยึดมั่นถือมั่นในธรรมอันมีพิษไว้ในใจของเราอยู่ อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายทั้งนั้น นั่นคือเหมือนกันกับสุนัขนั้น ถ้าหากโรคเรื้อนมันหายแล้ว มันจะอยู่ที่ไหนมันก็สบาย อยู่กลางแจ้งมันก็สบาย อยู่ในป่ามันก็สบายอย่างนี้ ผมนึกอยู่บ่อย ๆ แล้วผมก็นำมาสอนพวกท่านทั้งหลายอยู่เรื่อย เพราะธรรมตรงนี้มันเป็นประโยชน์มาก”


ส่วนหนึ่งจากคำที่ หลวงปู่ชา ได้สอน อาจารย์สิริปันโน หรือชื่อเดิม Ven Siripany ลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของเอเซีย ที่ทิ้งมรดก 285,000 ล้านบาท ปัจจุบันบวชอยู่วัดหนองป่าพง เป็นเวลากว่า 18 ปีแล้ว