วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงค์จักรี

ขอขอบคุณรูปภาพจาก
นสพ.คมชัดลึก ฉบับเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559


วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖

การทำงานด้วยน้ำใจรัก ต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็นก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานอันมั่นคง ที่พูดเช่นนี้ เหมือนกับสอนให้ปิดทองหลังพระ

การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก
ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้าไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามสมบูรณ์ไม่ได้

ตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖


วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ประชาชนชาวไทยร่วมสวดมนต์บทอิติปิโส89จบ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


วานนี้ (27..59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากเดินทางมารวมตัวกันบริเวณท้องสนามหลวงฝั่งเหนือ เพื่อร่วมกิจกรรมสวดมนต์บทอิติปิโส89จบและเจริญจิตภาวนา เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี โดยมีแม่ชีทองสุข ทองกระจ่าง เป็นผู้นำสวดมนต์
คุณวิเศษแห่งพระรัตนตรัย ได้แก่ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ในบทสวดอิติปิโส ที่เกิดจากการถอดแบบพุทธพจน์ ของสมเด็จพระสัมมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นมงคลสูงสุด และเมื่อสวดหลายๆจบจะบังเกิดความรู้สึกสว่างอบอุ่นใจ เหมือนมีความศักดิ์สิทธิ์บังเกิดขึ้นรอบตัว
c.jpg
ส่วนสิ่งที่สำคัญของการสวดมนต์บทอิติปิโส ยังช่วยในด้านภาวะจิตใจของผู้ที่ชีวิตตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ทั้งทางกายหรือทางใจอย่างแสนสาหัส แต่ด้วยจิตที่สงบนิ่งจากการหันหน้าพึ่งพระธรรม ตั้งใจเพียรภาวนาและสวดมนต์ ทำให้สามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤตนั้นมาได้
จากนั้น วงดุริยางค์ทหารเรือจิตอาสา ได้มาร่วมบรรเลงเพลงพ่อภูมิพล เพลงผู้ปิดทองหลังพระ และเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งกิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6
c3.jpg

Source : TNN24

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตามรอยธรรมราชา



"ในการดำเนินชีวิตของเราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่รู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่ว ว่าเสื่อม ต้องฝืนต้องค้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้องและเป็นธรรม"

พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันเสาร์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓

#ตามรอยธรรมราชา

ตปะ (ความทรงเดช คือ แผดเผากิเลสตัณหา มิให้เข้ามาครอบงำย่ำยีจิต ระงับยับยั้งข่มใจได้ ไม่ยอมให้หลงใหลหมกมุ่นในความสุขสำราญและความปรนเปรอ มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอ หรืออย่างสามัญ มุ่งมั่นแต่จะบำเพ็ญเพียร ทำกิจให้บริบูรณ์

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

พระราชดำรัส พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่บุคคลต่างๆ 28 ธันวาคม 2522

คำว่า สุจริต นี้มาจากคำว่า
การท่องเที่ยวของจิตใจทางที่ดี
คือคิดให้ดี คิดให้สุจริต
ทั้งฉลาดด้วย
ทั้งไม่เบียดเบียนผู้อื่น
หรือการงานของตัวเอง
ทั้งไม่เบียดเบียนตัวเองด้วยจึงจะเป็นผู้สุจริต

พระราชดำรัส พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่บุคคลต่างๆ 28 ธันวาคม 2522

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา ณ ห้องประชุมโรงเรียนจิตรลดา วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓

"... ความรู้ที่สะสมเอาไว้ในตัวเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเสมือนประทีปสำหรับนำทางเราไปในการปฏิบัติตนในชีวิต จะเป็นการศึกษาต่อก็ตาม หรือจะเป็นการไปประกอบอาชีพการงานก็ตาม ความรู้นั้นจะเป็นเครื่องนำทางไปสู่ความเจริญ ความรู้ทางวิชาการก็จะสามารถให้ประกอบอาชีพการงาน ที่มีประสิทธิภาพ เท่ากับเป็นสิ่งที่จะเลี้ยงตัวเลี้ยงกายเรา ความรู้ในทางการประพฤติที่ดี จิตใจที่เข้มแข็ง ที่ซื่อสัตย์สุจริตนั้น จะนำเราไปได้ทุกแห่ง เพราะเหตุว่าผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ผู้มีความขยันหมั่นเพียร ผู้มีความตั้งใจที่แน่วแน่นั้น ไม่มีทางที่จะล่มจม เพราะว่าเมื่อเราจะต้องได้รับการช่วยเหลือ ผู้ที่เห็นบุคคลที่มีความประพฤติดีก็จะเข้าช่วยอุปการะต่อไป แม้ตัวเองก็จะอุปการะตัวเองได้เพราะจะเห็นแจ้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ถลำไปในทางที่ไม่ถูก อันนี้ก็เป็นความหมายของการศึกษา..."

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา ณ ห้องประชุมโรงเรียนจิตรลดา วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เพลงธงนำชีวิต


มีที่ไหนในโลก โชคดีเท่าบ้านของเรา
มีที่ไหนสบาย เท่าบ้านเรานี้

มี่ที่ไหนที่มี ศูนย์รวมความรักอย่างเรา
ที่คอยบรรเทา ทุกครั้งที่เราเดือดร้อน

ท่านเป็นเทวดา อยู่บนฟ้าท่านคงสบาย 
แต่ท่านเป็นเทวดา ที่อยู่บนดิน

ท่านคือธงนำชีวิต ท่านคือหลักชัยให้เราก้าวตาม
สิ่งที่ท่านทำ ส่งผลเพื่อคนมากมาย
ท่านคือพลัง คือแสงตะวันส่องฟ้าให้มีวันใหม่
สิ่งที่ท่านได้สร้างไว้ เพื่อให้เราสุขสบาย

เมื่อพายุกระหน่ำ เหตุร้ายนั้นซ้ำเติมเรา
ความทุกร้อนบรรเทา ถ้าท่านได้ยิน

วันที่ฟ้าคำราม วันที่น้ำท่วมแผ่นดิน
เราต้องได้ยินว่า ท่านนั้นคอยช่วยเหลือ

ท่านเป็นเทวดา อยู่บนฟ้าท่านคงสบาย 
แต่ท่านเป็นเทวดา ที่อยู่บนดิน

ท่านคือธงนำชีวิต ท่านคือหลักชัยให้เราก้าวตาม
สิ่งที่ท่านทำ ส่งผลเพื่อคนมากมาย
ท่านคือพลัง คือแสงตะวันส่องฟ้าให้มีวันใหม่
สิ่งที่ท่านได้สร้างไว้ เพื่อให้เราสุขสบาย

แค่เพียง แค่เพียงขอให้เราใส่ใจ
ทุกๆ อย่างท่านทำ มากมายแค่ไหน

ท่านคือธงนำชีวิต ท่านคือหลักชัยให้เราก้าวตาม
สิ่งที่ท่านทำ ส่งผลเพื่อคนมากมาย
ท่านคือพลัง คือแสงตะวันส่องฟ้าให้มีวันใหม่
สิ่งที่ท่านได้สร้างไว้ เพื่อให้เราสุขสบาย

สิ่งที่ท่านสอนสั่งไว้ ขอให้พวกเราทำตาม
เราก็รู้ท่านเหนื่อยแค่ไหน เพื่อให้พวกเรา สุขสบาย

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9 คำพ่อสอน : พูดจริง ทำจริง

 ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม 

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540


วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9 คำพ่อสอน : ความรู้ตน

        เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน 

พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521


วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9คำพ่อสอน : อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ

 ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม 

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496


วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

#76ล้านดวงใจอาลัยพ่อ (ภาพชุด)

76ล้านดวงใจอาลัยพ่อ
วันเสาร์ที่ 19 พ.ย. พ.ศ.2559
ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ณ ถ.เรียบหาดพัทยา
เมืองพัทยา จ. ชลบุรี



























ขอขอบคุณเจ้าของภาพ
Cr. เฟซบุ๊คแฟนเพจ : เรารักพัทยา ,ipattaya

9 คำพ่อสอน : เป็นผู้รับและเป็นผู้ให้

คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้ 

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521


วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9คำพ่อสอน : ความพอดี

ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้น
จะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป 
ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง
และความพอเหมาะพอดี 
ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง 
หรือทำด้วยความเร่งรีบ 
เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว 
จึงค่อยสร้างค่อยเสริม
ความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น 
ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน 
มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
วันที่ 18 ธันวาคม 2540

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ขอทำตามคำพ่อ "หนังสือเป็นออมสิน"

หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ 
หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้
และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ 
ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ขอทำตามคำพ่อ : "การชนะใจตน"

  ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ 

พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ 12 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 12 ธันวาคม 2513


Break free from negative people...


Break free from negative people
Because negativity has a way of passing
From person to person
And they will drag you down with them.

พยายามออกห่างจากคนมองโลกในแง่ร้าย
เพราะการมองโลกในแง่ร้ายนั้นสามารถติดต่อกันได้
และมันจะทำให้คุณตกต่ำลงไปด้วย

WHO จัดทำสารคดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


For all of us at WHO, His Majesty is an inspiration, as he should be for all other leaders. His leadership and strong commitment to public health exemplified the most fundamental principle of Health for All People, and set a high standard to which we all should strive and build upon. His Majesty was a significant role model nationally and globally in addressing the most pressing public health issues of his time.
In improving the public health of Thailand, we will all continue to serve the legacy of His Majesty, who will always be remembered not only as a champion for health, but also as the people’s King.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเรา องค์การอนามัยโลก และผู้นำอื่น ๆ ของโลก พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ด้านการสาธารณสุขล้วนแต่เป็นเครื่องสะท้อนหลักการ “สุขภาพดีถ้วนหน้า” อย่างแท้จริง ที่เราต้องยึดเป็นแบบอย่างเพื่อปฏิบัติตามและต่อยอด นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของประชากรไทยและโลกในการต่อสู้กับปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญต่าง ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

องค์การอนามัยโลกจะเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ของพระองค์ในการพัฒนางานด้านสาธารณสุขของไทย และพระองค์จะทรงสถิตย์ในใจของเราตลอดไป มิใช่ในฐานะผู้นำด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่ในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนด้วย

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9 คำพ่อสอน : ความซื่อสัตย์

    "...ผู้ที่มีความสุจริตและบริสุทธิ์ใจ แม้ จะมีความรู้น้อยก็ย่อมทำประโยชน์ให้ แก่ส่วนรวมได้มากกว่าผู้มีความ รู้มากแต่ไม่มีความสุจริตไม่มีความบริสุทธิ์ใจ..."
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะคณาจารย์โรงเรียนต่างๆ
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 18 มีนาคม 2523
 


กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดพิมพ์หนังสือ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” และ “ 99 พระบรมราโชวาท น้อมนำราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์ ” เตรียมแจกให้ประชาชนทั้ง 2 เล่ม รวม 2 แสนเล่ม พร้อมทั้งเผยแพร่หนังสือในรูปแบบ E-Book ให้ประชาชนสามารถดาวน์โหลดได้ด้วย


โดยหนังสือที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำขึ้นแจกฟรีให้กับประชาชนนั้นมี
guidance-book-king-bhumibol-01
เล่มที่ 1 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” หนังสือพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ตลอดการครองสิริราชสมบัติ 70 ปี พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ ที่หาชมได้ยาก
guidance-book-king-bhumibol-02
ส่วนเล่มที่ 2 ชื่อ “ 99 พระบรมราโชวาท น้อมนำราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์ ” เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานในโอกาสต่างๆ  โดยได้แบ่งเป็นหมวดต่างๆ อาทิ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ฯ รักษาวัฒนธรรมประเพณี รู้จักดำรงตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ
รวมถึงเชิญพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”รวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย
guidance-book-king-bhumibol-03
โดยประชาชนทั่วไป สามารถรับหนังสือทั้ง 2 เล่มของจริงซึ่งมีแจกฟรีเพียง 2 แสนเล่มเท่านั้น ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันนี้ ( 14 พฤศจิกายน 2559 ) เป็นต้นไป แต่หากมารับเล่มจริงไม่ทัน ก็สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ e-book เก็บไว้ลงในสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงวัฒนธรรรม โดยคลิกที่นี่เพื่อเข้าสู่หน้า E-Book ของทั้ง 2 เล่ม

9 คำพ่อสอน : ความเพียร

“ความเพียรที่ถูกต้องเป็นธรรม และพึงประสงค์นั้นคือความเพียรที่จะกำจัดความเสื่อมให้หมดไป และระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นใหม่ อย่างหนึ่ง กับความเพียรที่จะสร้างสรรค์ความดีงาม ให้บังเกิดขึ้นและระวังรักษามิให้เสื่อมสิ้นไป อย่างหนึ่ง ความเพียรทั้งสองประการนี้ เป็นอุปการะอย่างสำคัญ ต่อการปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน ถ้าทุกคนในชาติจะได้ตั้งตนตั้งใจอยู่ในความเพียรดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม”
(พระราชดำรัสพระราชทานในพิธีกาญจนาภิเษก ทรงครองราชย์ ครบ 50 ปี พ.ศ.2539)

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ไม่สน...คำคน



เมื่อใดที่เราเก็บเอาคำพูดเย้ยหยันของคนอื่นมาใส่ใจ.. 
เมื่อนั้นเราจะเริ่มสูญเสียความมั่นใจ และความศรัทธาของตัวเราเอง

ทุกคนมีปาก อยากจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับเราก็พูดได้ 
แต่จะมีใครที่จะรู้จักเราได้ดีเท่ากับตัวเราเองบ้าง..

หากเรารู้ว่า.. เราคือคนดี มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง
ก็ย่อมไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งเราไม่ให้ประสบความสำเร็จได้

แม้จะมีสักหมื่นคนที่พูดว่า..เราไร้ความสามารถ
แสนคนจะพูดว่าเราไม่มีทางได้พบโอกาส
หรือล้านคนจะพูดว่า..เราสู้คนอื่นไม่ได้
แต่ถ้าเราไม่เชื่ออย่างนั้น.. 
ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองว่าเรามีความสามารถ
มีโอกาส มีโชคและมีดีเท่าเทียมคนอื่น..
เราก็จะยังคงมีแรงต่อสู้อย่างไม่รู้จักท้อถอย

ดูอย่างดารา นักร้องหลายคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
มีใครบ้างที่ไม่เคยโดนด่า.. หรือไม่เคยโดนนินทาว่าร้าย
แต่แปลกที่คนๆ หนึ่งยิ่งโดนดูถูกหรือถูกวิจารณ์มากๆ
คนๆ นั้นกลับยิ่งประสบความสำเร็จ...และมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น

ที่จริงแล้วใช่ว่าคำพูดของคนจะทำให้เราได้ดีได้
แต่..เพราะคำพูดของคน..จะทำให้ใจของเราแกร่งกล้าขึ้น
และยิ่งนำมันมาใช้ประโยชน์ให้ถูกทาง
คือ..ใช้มันเป็นแรงใจและเป็นแรงกระตุ้นให้กับตัวเอง..ให้สู้หนักขึ้น
ชีวิตของเราก็จะยิ่งโลดแล่นไปได้สวย
แม้ขณะที่เราต้องอยู่ท่ามกลางคำดูถูกเหยียดหยามตลอดเวลาก็ตาม..

คำ ค น...
บางครั้งก็เปรียบเหมือนแค่ น้ำ เ น่ า ๆ
ถ้าเราเก็บมาใส่ใจ
มันก็มีแต่จะทำลายความสดชื่นใสสะอาด
ข อ ง ใ จ เ ร า เ อ ง
อย่ายอมให้คำของใครมาบั่นทอนจิตใจของเราอีก
และจำไว้เสมอว่า...

เราคือคนเดียวเท่านั้นที่กำหนดได้...
ว่าเราต้องการจะเป็นใคร
และจะ ก้ า ว ไ ป ยื น จุ ด ไ ห น ข อ ง ชี วิ ต...

จากหนังสือ : แค่ได้มีชีวิตนี้ มันก็ดีที่สุดแล้ว
เขียนโดย ณัชชา

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2517


"...ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่เป็นสังคม ย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกันซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชาและความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่างๆๆ ย่อมเป็นประโยชน์ถ้ามีรากฐานความคิดอย่างเดียวกัน "รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความสุข มีความเป็นปึกแผ่น...”

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2517

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต วันที่ 31 ตุลาคม 2518

"..ความเข้มแข็ง ในใจนั้นหมายความว่า ไม่ท้อถอย และไม่เกิดอารมณ์มาทำให้โกรธ อารมณ์นั้นก็คือ ความโกรธ ความฉุนเฉียว ความน้อยใจ ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คิดไม่ออก.."

พระราชดำรัส  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต วันที่ 31 ตุลาคม 2518

คริสตชนชาวรัสเซียร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

Jaew Waew Lopanpaibul โดยในคลิปเป็นการประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ภายในโบสถ์ ซึ่งมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเวอร์ชั่น male choir (ขับร้องประสานเสียงชายล้วน) ได้อย่างไพเราะและจับใจคนที่ได้เห็นคลิปดังกล่าว ซึ่งเจ้าของคลิปได้เขียนข้อความระบุไว้ว่า “โบสถ์คริสต์ออโธดอกซ์แห่งพระตรีเอกานุภาพในจังหวัดภูเก็ตถวายความอาลัยแด่ในหลวงด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในแบบ male choir คณะนักร้องร้องได้ไพเราะ สง่างาม ในรูปแบบของการร้องประสานเสียงในโบสถ์โดยนักร้องชายล้วน โดยมีผู้คนเข้าไปชมคลิปดังกล่าวกว่า 46,000 ครั้งและมีการแชร์คลิปไปเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่โบสถ์ออร์โธด็อกซ์แห่งพระตรีเอกานุภาพ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา พระศาสนจักรออร์โธด็อกซ์ได้ฉลองวันอัศจรรย์ของรูปไอคอนพระแม่มารีย์พรหมจารีย์แห่งคาซาน โดยพระคุณเจ้าโอเล็ก เซเรพานิน และ คุณพ่อดาเนียล ดนัย วรรณะ คุณพ่อมีคาห์ ทองคำ เพียไชยะวงศ์ ฯลฯ หลังจบพิธีกรรม คณะบาทหลวงและคริสตชนได้สวดภาวนาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๐๗


"ชาติไทยเรานั้นได้มีเอกราช มีภาษา ศิลปะ และขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง มาช้านานหลายศตวรรษแล้ว ทั้งนี้เพราะบรรพบุรุษของเราได้เสียสละอุทิศชีวิต กำลังทั้งกายและใจ สะสมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เพื่อพวกเรา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้คงทนถาวร เป็นมรดกของอนุชนรุ่นหลังต่อไป ข้าพเจ้าเห็นว่าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ชี้ให้เห็นอดีตอันรุ่งโรจน์ของชาติไทยเรา เป็นประโยชน์แก่การศึกษาทั้งในทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ โบราณคดี และวัฒนธรรม จึงควรที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันทะนุถนอมบำรุงรักษาอย่าให้สูญสลายไป"

พระบรมราโชวาท
ในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย
วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๐๗

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รักพ่อ เป็ด ปะกายเพ็ด ຮັກພ໋່ ເປ້ດ ປະກາຍເພ້ດ ศิลปินประเทศลาว น้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย


รักพ่อ เป็ด ปะกายเพ็ด ຮັກພ໋່ ເປ້ດ ປະກາຍເພ້ດ ศิลปินประเทศลาว น้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย

ขอขอบคุณวีดีโอจาก : ร้อยเรื่อง เมืองลาว

รักพ่อ - ปุ๊กกี้ เงินล้าน ຮັກພໍ່ huk phor - ປຸກກີ້ ເງິນລ້ານ ศิลปินประเทศลาว น้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย


รักพ่อ - ปุ๊กกี้ เงินล้าน ຮັກພໍ່ huk phor - ປຸກກີ້ ເງິນລ້ານ ศิลปินประเทศลาว น้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย

ขอขอบคุณวีดีโอจาก : ร้อยเรื่อง เมืองลาว

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ลำภูไทด้วยหัวใจที่ฮักพ่อ | ไมค์ทองคำ

บทเพลง ถวายความอาลัย และ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
เพลง ลำภูไทด้วยหัวใจที่ฮักพ่อ:ไมค์ทองคำหมอลำฝังเพชร
คำร้องและทำนอง : สลา คุณวุฒิ
เรียงเรียง: ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว
ร่วมกันขับร้องบทเพลง โดย ครูสลา คุณวุฒิ, แม่บานเย็น รากแก่น,อี๊ด โปงลาง และ ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ 
จากรายการ "ไมค์ทองคำ หมอลำฝังเพชร" และ บจม.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สื่ออินโดฯ เผยแพร่บทความสอนสำนักข่าวตะวันตก ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง รัชกาลที่ ๙

(ขอขอบคุณเนื้อหา โดย MGR Online)

สื่ออินโดฯ เผยแพร่บทความสอนสำนักข่าวตะวันตก ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง รัชกาลที่ ๙
        จาการ์ตาโพสต์ - สื่ออินโดนีเซียเผยแพร่บทความของอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยบูรพา ระบุการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของไทย และให้ข้อมูลอย่างละเอียดว่าทำไมผู้คนถึงรักพระมหากษัตริย์พระองค์นี้อย่างหาที่สุดมิได้ หลังสื่อมวลชนนานาชาติหลายฉบับรายงานข่าวโดยไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของพสกนิกร และรับรู้สถานการณ์ที่แท้จริงในไทย
       บทความของ ดร.ภัทรพงษ์ รัตนเสวี จากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของจาการ์ตาโพสต์ ระบุว่า หัวค่ำของวันที่ 13 ตุลาคม คือช่วงเวลาที่วิกฤตยิ่งของปวงชนชาวไทย เพราะมันเป็นเวลาที่สำนักพระราชวังแถลงอย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ที่ทรงครองราชย์นานที่สุดในโลก เสด็จสวรรคต สิ้นสุด 70 ปีแห่งการครองราชบัลลังก์ของพระองค์
       
       ทั่วทั้งประเทศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน โศกเศร้า และความไม่แน่นอน ขณะที่มันเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ยากลำบากและยาวนานของพสกนิกรชาวไทย
       
       ดร.ภัทรพงษ์ระบุผ่านจาการ์ตาโพสต์ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งในไทย พระองค์ทรงเปรียบเสมือนหัวใจของชาติ แสดงให้เห็นจากเหล่าผู้นำโลกจำนวนมากออกถ้อยแถลงแสดงความอาลัย ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี บารัค โอบามา, ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน, ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ขณะที่สหประชาชาติก็จัดประชุมวาระพิเศษเพื่อสดุดีพระองค์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
       
       อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพาบอกต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ข่าวพาดหัวของสื่อมวลชนนานาชาติเต็มไปด้วยข่าวลือและความคาดหมายเกี่ยวกับการสืบราชสันตติวงศ์ รวมถึงบทบาทซึ่งเป็นที่ถกเถียงในทางการเมืองของพระองค์และอนาคตของประเทศ นั่นเป็นเพียงมุมมองของต่างชาติ แทนที่จะสนทนากันในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนและรับรู้สถานการณ์ที่แท้จริงในไทย ซึ่งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญยิ่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือการตระหนักว่าทำไมพระมหากษัตริย์ไทยถึงเป็นที่เคารพรักทั้งพสกนิกรไทยและต่างชาติ เช่นเดียวกับทำไมพระองค์ทรงมีความพิเศษอย่างยิ่ง แตกต่างจากอย่างมากกับระบบราชาธิปไตยอื่นๆ
       
       บทความในจาการ์ตาโพสต์ระบุว่า อย่างแรกเลย มีคนมากมายพูดว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชถูกมองอย่างกว้างขวางในฐานะกึ่งเทพ มันเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว ครึ่งหนึ่งของความเชื่อว่าพระองค์เป็นมนุษย์กึ่งเทพ มาจากความเชื่อดั้งเดิมและในฐานะของกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนาน แต่อีกครึ่งหนึ่งมาจากบุคลิกและกิจวัตร รวมถึงความมีศีลธรรม ชีวิตส่วนพระองค์ และพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ
       
       พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกษัตริย์ผู้ทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อ่อนโยน ห่วงใย โอบอ้อมอารี เอาจริงเอาจัง เฉลียวฉลาด เคร่งขรึมและตั้งใจ พระองค์ทรงใช้ชีวิตเรียบง่ายและติดดิน มีเรื่องเล่ามากมายปากต่อปากในหมู่ผู้คนเกี่ยวกับแบบอย่างการใช้ชีวิตเรียบง่ายของพระองค์ อย่างเช่น หลอดยาสีฟันที่ทรงใช้จนแบนราบคล้ายแผ่นกระดาษ นาฬิกาเรือนโปรดของพระองค์ ปากกาและรองเท้าที่ซ่อมแล้วซ่อมอีก ส่วนที่ทำงานของพระองค์ก็เป็นแค่ห้องแคบๆ กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร ที่เต็มไปด้วยวิทยุ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แผนที่ และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ บทความในจาการ์ตาโพสต์ระบุ
       
       ดร.ภัทรพงษ์บอกต่อว่า นอกเหนือจากหน้าที่ของกษัตริย์แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงเป็นนักวาดภาพมืออาชีพ ช่างภาพมืออาชีพ นักดนตรีแจ๊ซ นักแต่งเพลง วิศวกร สถาปนิก นักประพันธ์หนังสือ นักแปล นักประดิษฐ์และนักคิดสร้างสรรค์ ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังมีความเชี่ยวชาญในภาษาต่างชาติ 7 ภาษา และครั้งหนึ่งเมื่อไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันคือซีเกมส์) พระองค์ก็ทรงคว้าเหรียญทองในกีฬาเรือใบโดยเรือที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง
       
       พระองค์ทรงได้ปริญญากิตติมศักดิ์กว่า 200 ใบ จากทั้งมหาวิทยาลัยภายในและต่างประเทศ เช่นเดียวกับรางวัลทรงคุณค่าระหว่างประเทศต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต (Lifetime Achievement Award) จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) คนแรกของโลก ในปี 2006 ที่เสนอโดยนายโคฟี อันนัน เลขาธิการยูเอ็น ณ ขณะนั้น และตอนนี้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ แนวคิดที่สนับสนุนประชาชนใช้ชีวิตแต่พอมีและพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาอย่างสมดุลระหว่างความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่นเดียวกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ แห่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เวลานี้กำลังถูกนำไปประยุกต์ใช้ทั่วโลก
       
       อย่างที่สอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพาระบุว่า คือการที่พระองค์ทุ่มเทพระวรกายตลอดช่วงชีวิตทำงานเพื่อพสกนิกรในประเทศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงริเริ่มและดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ ทั้งในชนบทและพื้นที่เมือง ในนั้นรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอันสำคัญบางแห่ง อย่างเช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถนนรัชดาภิเษก ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี สะพานพระราม 8 และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ด้วยหลายโครงการเชื่อว่าใช้เงินส่วนพระองค์ ขณะเดียวกัน โครงการด้านการเกษตร ป่าไม้ และอุตสาหกรรมขนาดเล็กบางส่วน ก็เริ่มต้นในฐานะการทดลองผลิตเองในสวนของพระราชวังดุสิต ที่ประทับของพระองค์ในกรุงเทพฯ และมันจะถูกนำไปใช้และมอบให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์เมื่อคิดว่าประสบผลสำเร็จแล้ว
       
       ดร.ภัทรพงษ์ให้ข้อมูลผ่านจาการ์ตาโพสต์ต่อว่า พระองค์ยังถือครองสิทธิบัตรระหว่างประเทศหลายใบ โดยที่โด่งดังที่สุดคือเทคโนโลยีฝนหลวง กังหันน้ำเพื่อบำบัดน้ำเสียชัยพัฒนา และพลังงานไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม พระองค์ทรงงานคู่ขนานและประสานงานกับรัฐบาล แต่บ่อยครั้งความพยายามของพระองค์ดูเหมือนจะรวดเร็ว มีประสิทธิผล ได้คำตอบ มีการวางแผนที่ดีและปราศจากคอร์รัปชัน ซึ่งสวนทางกับทัศนคติไม่ใส่ใจและผลงานไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่ศรัทธาและน่าเชื่อถือที่สุดในสายตาประชาชน
       
       อย่างที่ 3 บางทีอาจเป็นเพราะการครองราชย์ที่ยาวนานและบทบาทชี้ขาดในทางการเมือง วิกฤตและสังคมของพระองค์ ทั้งนี้ ด้วยทรงเป็นที่เคารพรักอย่างสูง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงมีสถานะพิเศษเหมือนคนกลางสุดท้าย พระองค์ทรงแทรกแซงทางการเมืองอย่างชาญฉลาดและทำเท่าที่จำเป็น แต่ผลลัพธ์นั้นทรงพลังและไม่สามารถปฏิเสธได้
       
       โดยหนึ่งในเหตุการณ์ซึ่งเป็นที่จดจำมากที่สุด ก็คือ ระหว่างเหตุความไม่สงบนองเลือดในปี 1992 พระองค์ทรงเรียกสองแกนนำฝ่ายตรงข้ามเข้าพบเพื่อหาทางออกอย่างสันติและยุติการนองเลือด เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้มีการออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ และนำมาสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่ได้รัฐบาลพลเรือน ขณะที่พระองค์เคยทำแบบเดียวกันนี้ในปี 1973 และ 1976 ดร.ภัทรพงษ์ระบุ
       
       บทความในจาการ์ตาโพสต์ระบุว่า สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก 70 ปีแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็คือ ด้วยการทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อุทิศพระวรกายทั้งชีวิตเพื่อสังคมและเป็นแบบอย่างด้านการใช้ชีวิตเรียบง่าย ประเทศไทยจึงประสบความสำเร็จในรูปแบบอำนาจซึ่งไม่เป็นไปตามแบบแผน ที่ทั้งหมดสร้างขึ้นรอบๆ บุคคลเดียว อำนาจที่อ่อนโยนของพระองค์เหนือกว่าอำนาจที่แข็งกร้าว และช่วยรักษาเสถียรภาพของประเทศ และบางครั้งบางคราวทรงนำพาประเทศผ่านพ้นความยุ่งเหยิงทั้งภายในและภายนอก
       
       แน่นอนว่าพลังอำนาจพิเศษของพระองค์คงไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ชาวตะวันตกทั่วไปคิด หากปราศจากการศึกษาบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ มันยากที่จะเข้าใจ มันพบเห็นได้น้อยมากในประวัติศาสตร์ และคงไม่ได้พบเห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ดร.ภัทรพงษ์กล่าวปิดท้ายในจาการ์ตาโพสต์